Lunch with the FT
ความรู้สึกแรกที่เห็นหนังสือเล่มนี้คือ
อิหยังวะ FT ?
ยืนงงในดงหนังสืออยู่พักหนึ่ง หยิบขึ้นมาดูปกหน้าปกหลัง อ๋อ FT คงหมายถึง Financial Times แล้วหนังสือนี้ คงเอาเนื้อหาจากคอลัมน์ Lunch with the FT มารวมเป็นเล่ม
แนวคิดของคอลัมน์ Lunch with the FT คือเชิญผู้มีชื่อเสียงจากหลากหลายอาชีพมาเป็นแขกรับประทานอาหารกับนักข่าวของ FT ประมาณว่ากินไปสัมภาษณ์ไป โดยแขกรับเชิญเป็นผู้เลือกร้าน ส่วน FT เป็นผู้ออกค่าอาหาร
ดูจากรายชื่อปกหลังก็น่าสนใจดี ที่รู้จักและน่าสนใจก็อย่างเช่น แอนเจลีนา โจลี, จอร์จ โซรอส, สตีฟ วอซเนียก, เจฟฟ์ เบโซส์, อาเคโบโนะ ทาโร่ ราว ๆ นี้
หนังสือหุ้มพลาสติกไว้ตามสไตล์ openbook เปิดดูเนื้อหาข้างในไม่ได้ เลยให้ที่ร้านช่วยแกะให้ (จริง ๆ แกะเองก็ได้ แต่ให้ร้านแกะให้สบายใจกว่า) ข้างในเนื้อหาก็น่าสนใจดี ถึงเป็นเรื่องของคนที่เราไม่รู้จัก อ่านไปก็พอรู้จักเอง ได้เห็นอะไรที่ซ่อนอยู่ระหว่างการสนทนาด้วย เหมือนได้นั่งกินข้าวร่วมโต๊ะสนทนากับคนดังในราคา 700 บาท
ใช่แล้วครับ 700 บาทคือราคาหนังสือ #700บาท #เงินน่ะพอไหม
*********
ตอนนั้นไม่รู้หน้ามืดหรืออะไร รวยหรือเปล่าก็ไม่ใช่
สงสัยคงอยากได้อารมณ์เหมือนนั่งรับประทานอาหารกระทบไหล่คนดังเลยซื้อมาเรียบร้อย
มีบทสัมภาษณ์ 53 คน คิดแบบบ้าน ๆ ก็ตกคนละ 13.2 บาท อ่านจริง ๆ 5 คน
เท่ากับซื้อมา 700 แต่อ่านจริง 66 บาท
ส่วนที่เหลือก็อ่านแบบ "ฉันต้องหาอะไรจากหนังสือเล่มนี้ให้คุ้มกับเงินเจ็ดร้อยยยยยยยยยยยย"
หนังสือเล่มนี้ดีนะ แนวคิดก็ดี แต่ถ้าคุณรู้จักคนดังในเล่มไม่ถึงครึ่ง (ไม่ถึง 27 คน) ผมว่าอย่าซื้อเลย ยืมเพื่อนอ่าน หาซื้อมือสอง หรืออ่านเล่มอื่นที่เขียนถึงคนที่เราสนใจจริง ๆ ดีกว่า #นี่ก็เขียนไล่แขกอีกแล้ว
ยกเว้นว่าคุณจะซื้อมาเพื่อให้ตัวเองอดกินหมูกระทะสัก 2-3 มื้อ ก็ถือเป็นวิธีไดเอทที่แปลกไปอีกแบบ
*********
จะว่าไปทำไมในไทยถึงไม่ทำคอลัมน์แบบนี้บ้างนะ มันต้องสนุกมากแน่ ๆ มันน่าสนุกจนแทบอยากไปสัมภาษณ์เองเลย ทำฟรีก็ได้ ลองคิดดูเชิญพี่เบิร์ด ธงไชยมากินส้มตำสักร้าน สัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ มันต้องออกมาสนุกแน่ ๆ พี่เบิร์ดจะสั่งอะไร ส้มตำต้องพริกขี้หนูกี่เม็ด กินไก่ย่างแทะกระดูกเก่งไหม เต้นเพลงเจนนุ่นโบว์ได้หรือเปล่า ฯลฯ
หรือชวนฌอน บูรณะหิรัญมาคุยเรื่องการเมืองไรงี้?...อืมมม เขาคงมาหรอก ตอนนี้หายไปไหนยังไม่รู้เลยเถอะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น